Sunday, 26 March 2023

US Boxoffice ยัยหุ่น "M3GAN" เฮี้ยนกระหึ่ม สู้สุดใจประชันรายได้ "Avatar 2"

จัดว่าโลกได้อ้าแขน ต้อนรับการมาของ M3GAN หุ่นสาวสุดสยดสยองตัวใหม่ ที่กระหึ่มไม่เบา กลายเป็นการเปิดฉากเริ่มเปิดปีใหม่ ได้อย่างเป็นปรากฏการณ์ แม้ว่าพลังความแรงของเธอ บางทีอาจจะยังแรงไม่พอ ที่จะแซงหน้าแชมป์เก่า หนังบ็อกซ์บัสเตอร์เรื่องมหึมา แต่ก็สามารถแย่งซีน และก็สร้างกระแส ทำให้เหล่าชาวนาวี แผ่วแรงลงไปบ้างได้แบบนี้ นับว่าเป็นบ็อกซ์ออฟฟิศ เริ่มต้นปีได้อย่างน่าดึงดูดไม่เบา

M3GAN อวตาร2

และแน่ ๆ ว่าสุดสัปดาห์นี้ “Avatar: The Way of Water”

ก็ยังคงครองบัลลังก์ได้อีกต่อไป ไปสู่สัปดาห์ที่ 4 ต่อเนื่อง กันอย่างงดงาม ผ่านช่วงเทศกาลวันหยุดไปแล้ว แต่รายได้ ก็ยังน่าพึงพอใจอยู่ เก็บไปได้อีก 45 ล้านเหรียญ ลดน้อยลงมาแค่ -33% พร้อมกับยังครองรอบ รวมทั้งโรงฉายทั่วอเมริกาได้มากที่สุดถัดไป โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีการเพิ่มโรงฉายขึ้นอีก โดยประมาณหนึ่ง แต่รายได้เฉลี่ย ต่อโรงก็ยังสู้ แตะหลักหมื่นเหรียญแบบ ไม่ยอมตกลงมา

รายได้รวมในอเมริกาช่วงนี้ทะยานไปที่ 516 ล้านเหรียญ ส่วนรายรับรวมทั่วทั้งโลก ตอนนี้ก็พุ่งไปอยู่ที่ 1.7 พันล้านเหรียญ

ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ ที่ 7 ของรายได้หนังทำเงินสูงสุด ตลอดกาลของโลก แล้วก็ดูทรงแล้วว่า ก็ไปสู่รายได้ 2 พันล้านเหรียญ น่าจะมิได้ใช่อุปสรรคอีกต่อไปแล้ว คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกราว ๆ 10 วันหลังจากนี้ เราน่าจะได้เห็นหนังเรื่องนี้ ก้าวขึ้นสู่หนัง 2 พันล้านเหรียญ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ 6 ในประวัติศาสตร์ ที่ทำได้

ส่วนสัปดาห์นี้ ก็ต้องเปิดทางให้กับนาง “M3GAN” หนังหุ่นพี่เลี้ยงสะพรึง เป็นหนังใหม่ ที่เปิดตัวเรื่องแรกของปี 2023 กับปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากหนังสามารถ ฟันรายได้ 3 วันแรก ไปได้มากถึง 30.2 ล้านเหรียญ จาก 3,509 โรงฉายทั่วประเทศ

หรือคิดเป็นรายได้ เฉลี่ยต่อโรง ที่ราว ๆ 8 พันเหรียญเศษ ๆ ที่นับว่าแรงพอได้เลย หนังเรื่องนี้ ได้ทีมผู้ผลิตจากโปรดิวเซอร์ “เจมส์ วาน” ที่มีชื่อเสียงว่า เป็นเจ้าพ่อหนังสยอง มาช่วยปลุกความหลอน รวมทั้งยังผนึกกำลังกับ บลัมเฮาส์ อีกด้วย

M3GAN นักแสดง

สิ่งที่ได้เปรียบของ M3GAN

ก็บางทีอาจเป็นเพราะว่าเป็นหนังสยอง ที่ถูกจัดเรทแค่เพียง PG-13 ทำให้สามารถกวาด กลุ่มผู้ชมวัยุรุ่น ที่เป็นกลุ่มที่ผลักดันทำให้เกิดกระแสไวรัล ท่าเต้นอันเป็นตำนานล่าสุด

ขณะนี้เข้าไปซื้อตั๋วดูหนังได้เป็นอย่างดี ทั้งหนังยังได้กระแสตอบรับค่อนข้างดี จากนักวิจารณ์อีกด้วย เห็นได้จากคะแนน บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่สูงถึง 95% หลายคนแซวว่า สูงยิ่งกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ ยุคนี้ด้วยซ้ำ

M3GAN หนังดี

แน่นอน ว่าหนังเรื่องนี้ ได้ดีเนื่องจากว่ากระแสปากต่อปาก

จากผู้ชมโดยแท้จริง ทำให้หนังสามารถ ทำเงินเปิดตัวได้สูงกว่า ที่สตูดิโอแล้วก็นักวิจารณ์คาดเอาไว้ โดย M3GAN ใช้ทุนสร้างไปแค่เพียง 12 ล้านเหรียญแค่นั้น แม้ว่าจะมิได้ใช้นักแสดง ที่เป็นที่รู้จักอะไร แต่ว่าเนื้อหาของหนัง ก็ดึงดูดความสนใจได้ดี รวมทั้งขณะนี้หนังก็สามารถเปิดตัว กับรายได้รวมทั่วทั้งโลกได้มากกว่า 45 ล้านเหรียญแล้ว

ที่ยังทำผลลัพธ์ ได้อีกเรื่องก็คือ “Puss in Boots: The Last Wish”

ที่เป็นไปตามคาดว่า หนังจะสามารถโกยรายได้ ได้ยาว ๆ ด้วยเหตุว่าในตอน 1-2 เดือนนี้ จะยังไม่มีหนังแอนิเมชั่น เรื่องใหม่ออกฉายเลย และก็คำวิจารณ์ และแรงเชียร์แบบปากต่อปาก ก็ช่วยสนับสนุนหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี

หนังทำเงินไปอีก 13.1 ล้านเหรียญ น้อยลงไปเพียงแค่ -22% และก็มียอดรวม ในบ้านไปแล้วที่ 87 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้รวมทั่วทั้งโลก ในช่วงเวลานี้ก็ใกล้แตะ 200 ล้านเหรียญแล้ว

“A Man Called Otto” หนังตลกร้ายรีเมคของ “ทอม แฮงก์ส” ที่ฤกษ์เปิดฉาย เป็นวงกว้างเยอะขึ้นในอาทิตย์นี้ ก็สามารถทำเงิน ทะยานขึ้นมาติด Top 5 ได้ กับรายได้ 4.2 ล้านเหรียญ จากเพียงแค่ 637 โรงฉายทั่วอเมริกา หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ย ที่ประมาณ 6 พันเหรียญเศษ

ถือเป็นการออกสตาร์ท ที่น่าพอใจ ถึงแม้ว่าหนังจะ ยังไม่ได้ฉายวงกว้างเต็มสตริม แต่มีแผนที่จะขาย ไปถึงกว่าพันโรง ในครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป เพียงแต่ว่าหนังจะมี กระแสบนเวทีรางวัลมา ช่วยหนุนหรือไม่

ยิ่งกว่านั้นที่ปลายตารางยังมี “The Whale” หนังดราม่าลุ้นรางวัล ทางการแสดงของ “แบรนเดน เฟรเซอร์” ที่มีลุ้นจะได้ออสการ์ ยังทำเงินได้ดี ไปอีก 1.5 ล้านเหรียญ โดยมีการเพิ่มโรงฉายมากขึ้นอีกหน่อย เป็น 835 ที่ทั่วประเทศ

แม้ว่าจะยังไม่ได้ฉายแบบเต็มรูปแบบ ทั่วอเมริกา แต่ว่าเวลานี้ก็เก็บรายได้ มาตุนเอาไว้ที่ 8 ล้านเหรียญเศษ ๆ หนังยังมีอนาคตอีกไกล ไปจนช่วงฤดูกาลล่ารางวัล จะสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม

สำหรับอาทิตย์ที่จะถึงนั้น ที่นอกจากจะมี A Man Called Otto ขยายโรงฉายเป็นวงกว้างขึ้น หลักพันโรงฉายทั่วอเมริกาแล้ว ยังมีหนังใหม่มาอีก 3 เรื่องนี้ ได้แก่ หนังแอคชั่นเรื่องใหม่ของ “เจอราร์ด บัตเลอร์” ที่เตรียมแลนดิ้งใน “Plane” ตามมาด้วยหนังตลกรีเมค ที่เฉพาะกลุ่มคนอเมริกันผิวสี “House Party” รวมทั้งหนังเขย่าขวัญไซไฟ “The Devil Conspiracy” มีแผนจะฉาย ในวงค่อนข้างจะกว้าง